สวัสดีค่ะทุกคนนนน /กราบวนไป
วันนี้บิ๊วกลับมาพร้อมกับคอนเทนท์ที่วอแวอยากเขียนมาก เพราะว่าตอนแรกที่บิ๊วซื้อมา บิ๊วก็ไปวอแวกระทู้ของฝรั่งท่านนึงมาค่ะ นางเขียนคอนเทนท์ Cosmetic Dupes ซึ่ง บิ๊วขออธิบายคำว่า dupe นิดนึง
คำว่า Dupe ที่เราใช้ๆกันเนี่ย มันย่อมาจากคำว่า Duplicate หมายถึง การลอกเลียนแบบต้นฉบับมาเด๊ะๆ ประมาณว่า Ctrl+c แล้ว Ctrl+V (ก็อปวางอะว่าง่ายๆ)
duplicate (adj.)
1. Identically copied from an original.
2. Existing or growing in two corresponding parts; double.
3. Denoting a manner of play in cards in which partnerships or teams play the same deals and compare scores at the end)
ทีนี้เนี่ย ในวงการ beauty ก็ได้เอาคำนี้มาใช้กันอย่างมากมายเต็มไปหม๊ดดดดดดด ซึ่งถ้าความหมายของคำว่า dupe ในที่นี้ก็คือการที่เครื่องสำอางแบรนด์นึง ทำออกมาได้เหมือนกับอีกแบรนด์นึงเป๊ะๆในราคาที่ถูกกว่า เทียบง่ายๆ อย่างเช่น ลิปสติกยี่ห้อ A ราคา $20 แล้วยี่ห้อ B ก็ทำออกมาเหมือนกันเลย สีเดียวกัน เนื้อใกล้เคียงกัน แทนกันได้ แต่มาในราคา $7 ถูกกว่ากันเยอะ แบบนี้เรียก dupe ค่ะ
โอเค คร่าวๆเท่านี้เพื่อนๆน่าจะเข้าใจกันแล้วเนอะ
วันนี้ Dupe or Not ที่บิ๊วหยิบยกขึ้นมาก็คือออออออออ Highlighter จาก Becca และ Colourpop นั่นเองค่ะ
ซึ่งสีที่เขาว่ากันว่าเป็น dupe กันก็คือสี Opal จาก Becca และสี Wisp จาก Colourpop ค่ะ
ตอนแรกเนี่ย บิ๊วซื้อ Colourpop มาก่อน เนื่องจากวอแวแบรนด์นี้มาก อยากลองสุดๆ ตอนหลังมีโอกาสอันดีงานได้สอย Becca มาจนได้ (เล่าย้อนไปก่อนว่า ก่อนหน้าที่จะซื้อ Colourpop ก็หารีวิวของฝรั่งอ่านเยอะเหมือนกันค่ะ 555555)
สำหรับตัว Becca บิ๊วเคยรีวิวไปแล้วค่ะ จิ้มไปอ่านรีวิว
คือจะเป็นสีออก Champagne ทองๆ เนื้อละเอียดมากๆค่ะ ความพุ่ง ความ reflect แสงนี่สุดยอดไปเลย
มาดูตัวต่อมากันค่ะ Colourpop Supershock Cheek สี Wisp
คือจะเป็นสีออก Champagne ทองๆ เนื้อละเอียดมากๆค่ะ ความพุ่ง ความ reflect แสงนี่สุดยอดไปเลย
มาดูตัวต่อมากันค่ะ Colourpop Supershock Cheek สี Wisp
มาในตลับหมุนฝาเกลียวสีขาว ด้านหน้าเป็นพลาสติกใสสกรีนโลโก้ (ซึ่งลอกหายไปอย่างรวดเร็วในเวลาต่อมา)
ด้านหลังก็จะมีชื่อสีแปะกำกับอยู่
เนื้อ highlighter เค้าแปลกมากค่ะ จิ้มๆแล้วมันจะยุบตัวเหมือนดินน้ำมัน เอานิ้ววนแล้วจะครีมๆหน่อย แต่พอทาแล้วจะแห้งกลายเป็นแป้ง (มีความงงมะ)
อะปาดค่ะปาด
เห็นมั้ยคะว่ามันจะเป็นสี champagne ทองๆ และมีเม็ดสี copper เจออยู่
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ยังไงวันนี้บิ๊วไปแล้ว เจอกันกระทู้หน้าค่ะ บ๊ายบายยยยยยย xoxo
สำหรับคัลเลอร์ป๊อปบิ๊วชอบตรงที่เม็ดสีเค้าแน่นดีค่ะ พอทาลงผิวก็เนียนกลืนผิวดี แต่ยังมีเม็ดชิมเมอร์ใหญ่ๆอยู่ สำหรับสี Wisp ในความรู้สึกบิ๊วคือต้องให้คนที่ผิวเข้มๆหน่อยทาถึงจะสวย (บิ๊วผิวขาวเหลืองค่ะ ประมาณ NC 20-25) ด้วยความที่เค้ามีเม็ดสีทองแดงด้วย คิดว่าเข้ากับคนผิวเข้มมากกว่าค่ะ
มาเทียบกันค่ะ ว่าคล้ายกันจน DUPE กันได้มั้ย?
ดูจากในตลับคือทั้งคู่ค่อนข้างคล้ายกันเลยนะคะ
เนื้อของ CLP จะเนียนกว่าเพราะเป็นเนื้อกึ่งครีมนะคะ ถ้าพูดถึงสี ฝั่งของ Becca จะทองกว่าค่ะ ส่วนของ CLP จะเจือสีแชทเพญเยอะกว่า
ปาดออกมา อยากบอกว่าสีคล้ายกันพอสมควรนะคะ แต่ Becca จะมีความพุ่งมากกว่า อย่างที่บิ๊วบอกค่ะ ว่าของ Becca จะ reflect แสงได้ดีกว่า และจะทองกว่าค่ะ
ถ้าเทียบราคา
สำหรับ Becca ถ้ามาในขนาด full size (8 กรัม) จะอยู่ที่ $38 (ของบิ๊วเป็นไซส์เล็กนะคะ มาในเซ็ทลิมิเต็ด)
ส่วนของ Colourpop มาในขนาด (4.2 กรัม) อยู่ที่ $8
ถ้าถามว่า Dupe กันได้มั้ย มันก็จะได้นะคะในแง่ของสี แต่เนื้อและความพุ่งอาจจะเทียบกันไม่ค่อยได้เท่าไหร่
วันนี้บิ๊วหยิบเอาไฮไลท์เตอร์ที่บิ๊วมีตอนนี้มาปาดให้ชมกันด้วยค่ะ เผื่อใครมีชิ้นไหนจะได้เอาไว้เทียบสีค่ะ
ทั้งหมดห้าชิ้นนี้
- TheBalm Mary-Lou Manizer
- Benefit Highbeam
- Becca Shimmering Skin Perfector Spotlight Wand #Moonstone
- Becca Shimmering Skin Perfector Pressed #Opal
- Colourpop Supershock Cheek #Wisp
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ยังไงวันนี้บิ๊วไปแล้ว เจอกันกระทู้หน้าค่ะ บ๊ายบายยยยยยย xoxo
Youtube: x2buildt's channel
Snapchat: x2Buildt
Instagram: @x2buildt
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น